ต่างชาติเทขายหุ้นไทย ตลาดหุ้นร่วงหนัก ดัชนีหุ้นวอลุ่มสูง

ต่างชาติเทขายหุ้นไทย ปีนี้ได้เห็นความท้าทายอย่างยิ่งนักที่ตลาดหลักทรัพย์ไทย ไทย ทำเศษลงไปด้วยความไม่แน่นอนในเชิงเทคโนโลยี และเศษสถานะเศรษฐกิจทั้งในเรื่องของภาคโลกและไทยเอง. รูปอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้อาศัยไม่ดีขึ้นมากมาย ในตลาดหุ้นไทย ที่โล่งลงในระดับรอบๆ 10 ปีที่ผ่านมา

มันชัดมากในดัชนี SET ที่ไม่ “ปรับตัว” และมูลค่าการทำธุรกรรมเดือนละหดหาย นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยกันต่อเนื่อง, นับตั้น 11 วันมากกว่า 20,000 ล้านบาท¹. ความกังวลกระนุกให้นักลงทุนหลายคนเกลือกห้ามตัวไม่ให้ค้นหา ความไม่แน่นอนกับระยะยาวของเศรษฐกิจตลอด

สรุปสาระสำคัญ

• SET เคยพบจุดต่ำสุดที่ 1,330 จุด ในวันที่ 6 มิถุนายน 2567
• ตลาดหุ้นไทย ปลิวลงกว่า 4 ปี ยกเว้นน้อยน้อยล่ะ, ดัชนีหลักทรัพย์ภายใต้ร่วงกว่า 50 จุด ตะวันลมระยะรอบ 7 วันทำงาน¹
• มีแผน การพัฒนาตลาดทุนไทย, มัธยมรวมทุนผ่านการเสนอขาย IPO, และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ¹
• ราคาหุ้นไทยเป็นเพย์ยังคงดีเมื่อเทียบ เข้ากับ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ รูปแบบการอุตสาหกรรมแข็งแกร่งของประเทศ¹
• SET ตั้งใจ และคิดเก็นผลักกดตลาดทุนไทยเป็นแรกและใหญ่ เล่าวกตัวทำศูนย์กลางทัางการเงิน อาทิ พรารมใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาใช้

ภาพรวมสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย

โลกฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงเอียงไปทางขาลง ผ่านดัชนี SETที่ไม่ไปทางบวก และมูลค่าการซื้อขายลดลง เดือนละ² ล้านบาท²

นักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องเทขายหุ้นไทย ทำให้ตลาดไทยต้องหน้ามอบความท้าทายมากมาย ต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างอย่างเร่งด่วน²

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเไซหลุด 1 ล้านล้านบาท¹ เนื่องจากการเติบโตช้าและอุตสาหกรรมล้าสมัย

ส่งผลให้ราคาต่อกำไรปิดกั้นลง²

ในปี 2567 ตลาดหุ้นไทย ผลิตการขายสุทธิ 21.27 พันล้านบาท จริงพิสูจน์ให้ถูกต้อง เพราะ²

การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ น้อยในช่วง 2556 – 2565 สูงสุดในปี 2561¹ ที่ 287 ล้านบาท

ในทางกลับกัน นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 476 ล้านบาท₁ และนักลงทุนรายย่อย446 ล้านบาท ในช่วงปี 2556 – 2566¹

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมา² เฉพาะในหมวดธนาคารและพลังงาน/สาธารณูปโภค

คาดว่าผ่านให้พ้นสภาวะหน่วงยา พอดีหม่านี้หุ้นไทยอาจได้แรงขึง²

จากข้อมูลนักลงทุนต่างชาติยังไม่ซื้อเมื่อไหร่ยก้ขาดทุน¹ ควรมีการเกรงใจจะขายทิ้งอีก¹

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเทขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ช่วงเวลาที่ผ่านมา, นักลงทุนต่างชาติมีส่วนร่วมในการบริหารหุ้นไทยอย่างรุนแรง. มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นรุนแรงขึ้นนี้.

ความกังวลด้านการเมือง

ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยคือ ความไม่แน่นอนในทางการเมือง. ในช่วง 7 วันทำการล่าสุด, การเทขายตัวของนักลงทุนต่างชาติถูกพบได้มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท

สถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน อาจปลุกพูนความกังวล. ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

ข่าวเรื่องความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกและประเทศ ก็ได้ทำให้นักลงทุนต่างชาติระมัดระวังการลงทุน. ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก และเศรฝฐกิจไทย ส่งผลต่อการเทขายอย่างชัดเจน

นักลงทุนต่างชาติระบุ การเมือง, ภาวะหนี้ครัวเรือน, การสูญเสียโอกาสการลงทุน, ประชากรสูงวัย, และภาคอุตสาหกรรม ทำนวยเหตุให้เขาเทขายหุ้นไทย

ความกังวลต่อความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย

ความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่นักลงทุนให้ความสนใจ. ข่าวถึงการเปลี่ยนโปรดค์ชื่อประธานบอร์ดมีวันเกิดกว่ากัน ของผู้ใหม่ มีผลเยียวยาเกี่ยวกับความเป็นกลางและความเป็นอิสระ.

เหตุบ่นทั้งหลายทำให้นักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมากและระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น. ต่อไปก็รวมกัน ความผันผวนและความท้าทาย ตลาดหุ้นไทย

ผลกระทบจากการเทขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ

การเทขายหุ้นไทยอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติมีผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย. ดัชนีหุ้น SET ลดลงหนักจนทำให้ว่าจุดถ่วงต่ำสุด เป็น 1,330 จุด ในวันที่ 6 มิถุนายน 2567

ในขณะเดียวกัน, มูลค่าการซื้อขายหดตัวลง ก็ลดลง. เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยจำนวนมากกว่า 17,260 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มปีนี้

ความผันผวนของตลาดหุ้นเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการเทขายหุ้นที่หนัก โดยนักลงทุนต่างชาติ
ผ่านเวลา 10 ปี, การซื้อขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติมูลค่าเกินหนึ่งล้านล้านบาท. หลักฐานถึงความหลากหลายในตลาดหุ้นไทย

ช่วงต้นปี 2567, นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท. นับเป็นการขายสุทธิที่สูงที่สุดเท่าที่เคยเห็น

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ ปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดไทยลดน้อยลง. เป็นพิเศษใน 5 เดือนแรกของปีที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยกันไปรวมกว่า 81,641 ล้านบาท
การแสดงตัวที่ SET ร่วงลง 5% เมื่อเทียบกับต้นปี

แม้กระนั้น, ภาวะเศรษฐกิจไทยกำลังออกมาแข็งแกร่ง. มีเทนช์ที่สูงขึ้น จากดัชนีภาคบริการและการบริโภค. แสดงถึงความตักตวงใจดีของนักเที่ยวต่างชาติกำลังกลับมา

ต่างชาติเทขายหุ้นไทย

ในช่วงที่ผ่านมา, นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง. มีผลกระทบเช่นกันต่อภาวะซื้อขายหุ้นไทย. รายงานบอกว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ ได้ราคาทรัพย์ไทย 68,750 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2567

สถิติการเทขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ลักษณะนี้กลายเป็นความท้าทายใหญ่ของตลาดทุนไทย. ข้อมูลสำคัญคือ:

• ตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยมูลค่า 213,754.84 ล้านบาท ประมาณ 10-18% ตกช่วยกัน⁷
• นักลงทุนต่างชาติมีหุ้นไทยน้อยลง เหลือ 28-29% เท่ากับ 36% 10 ปีก่อน
• ภายใน 13 วันล่าสุด นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยมากกว่า 898,000 ล้านบาท

สถิติการซื้อขายหุ้นนี้บ่งชี้ข้อสรุปชัดเจน ได้เพราะเงินทุนต่างชาติออกจากซื้อ. สุ่มาที่ตลาดหุ้นไทย

ผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดหุ้นไทย

หนักนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยมีผลด้วย. สู่แต่ที่สำคัญประเด็นสำคัญคือ:

1. ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ครั้งเดียวร่วงมาก. จุสต่ำสุด 1,318.57 จุด 52 8 มาตร 6
2. มูลค่าการซื้อขายหุ้นลดเหลือ. มูลค่าเฉลี่ยเรียวยาศาสแต่วัน 40,000 ล้านบาท เกือบสูRoy 5 ปี⁸
3. กระแสเงินทุนต่างชาติฮอด กว่าสูง มาก. เพลิ ม่างภา, วางใจเสื้ง ่มิเที่งเท ่น ทั้งนั้น อด ณี้

นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยตื่นเป็นค่าตองที่สถานการณ์ทังจะแกการให้ได้ในเร็ว ที่

มาตรการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการรับมือ

ท่ามกลางสถานการณ์การเทขายหุ้นไทยอย่างหนัก, ตลาดหลักทรัพย์แหลงประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการหลายรูปแบบ. มีการเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุน, ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูตลาดหุ้น. มาตรการรวมทั้งการเร่งพัฒนาตลาดหุนไทยมีส่วนสำคัญอีกด้วย.

การสื่อสารข้อมูลอย่างชัดเจนเป็นหนึลงมือสำคัญ. มีการส่งสัญญาณแข็งแกร่งเกี่ยวกับแผนงาน และวิธีการแก้รัมภาตุ. นี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักเงิน, โดยเฉพาะในการแก้ปัญหาตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน.

แนวทางการฟื้นฟูที่เป็นรูปธรรมก็ถือว่าสำคัญ. และมีเป้าหมายสูงสุดในการยกระดับตลาดหุ้นไทย. จะเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางการลงทุนระดับภูมิภาค

การเร่งพัฒนาตลาดหุ้นไทย

เพิ่มน่าสนใจมากขึ้น, ตลาดหลักทรัพย์ได้พัฒนาตลาดหุ้นไทยแรงๆ. ตอนนี้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งกว่าเดิม. ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ, และมีบริการการเงินที่ทันสมัย. ควรจะสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน.

“มาตรการต่างๆของตลาดหลักทรัพย์แหลงประเทศไทย, แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการฟื้นฟู. และพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น. เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทั้ง in and out ประเทศ” – คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แหลงประเทศไทย

การเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ท่านสุดท้าย, มีการผลักดันนโยบายกระตุ้นการลงทุนจำนวนมาก. มันช่วยเพิ่อนกวยต่อเนื่องให้นักลงทุน. บนด้วยสัธิประโยชน์ทางภาษี และความสะดวกสบายในการลงทุน. รวมถึงส่งเสริมความเราและความเข้าใจเรื่องตลาด.

มันทำให้ดึงดูดเงินรวมทั้งนักลงทุนในประเทศ. และนักลงทุนต่างชาติ. ช่วยเพิ่มความคล่องเคลื้องและความมั่นคงตลาดหุ้นไทยในอนาคต

มาตรการเหล่านี้จะเป็นหลักในการฟื้นฟูลพลวัตใหม่ตลาสถานการณ์ตลาด. หรือสร้างเสริงใหม่ใหื่ตลาดหุ้นไทย. ให้มีบทบาทสำคัญใน๑ภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

.

โอกาสและจุดแข็งของตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความท้าทายบางอย่าง แต่ก็ยังต้องยอมรับว่ามีโอกาสที่น่าสนใจ ด้วยเหตุนั้น การระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO มีผลสำคัญ โดยตัดมาจากความสามารถในการระดมเงินผ่าน IPO ประมาณ 30-40 รายการต่อปี อย่างละ 3,000-4,000 ล้านดอลลาร์

สภาพคล่องสูง

ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจ นอกจาก การซื้อขายหลักทรัพย์มีคล่องแคล่ง ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา¹ ปัญหาอย่างนี้ทำให้นักลงทุนมองตลาดหุ้นไทยเป็นทางเลือกที่ดี

โปรดักต์ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ

ตลาดหุ้นไทยมีนวัตกรรมทางการเงินโดยการมีผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างประเทศที่เชื่อมโยงกับตลาดโลก อาทิเช่น เฮลท์แคร์ อาหาร การท่องเที่ยว และพลังงานทดแทน¹ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนจากทั่วโลกสนใจ

โดยแผนการพัฒนาตลาดหุ้นไทยในอนาคต ระยะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นมีไว้จะดึงดูดนักลงทุน ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและความสำคัญของเทคโนโลยี พัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ด้วยรายละเอียดที่กล่าวมา สรุปว่า การระดมทุน IPO ที่ได้ผล ความคล่องแคล่งในการซื้อขายหลักทรัพย์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเชื่อมโยงกับต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดนักลงทุน

แนวโน้มและทิศทางของตลาดหุ้นไทยในอนาคต

ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ. อย่างไรก็ตาม, มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยอาจฟื้นตัว. มีการพัฒนาเทคโนโลยีการเงิน¹⁰ และปรับปรุงระบบตลาดทุน. เพื่อรองรับนักลงทุนใหม่ที่สำคัญอย่างมาก. นักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

การเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค

ตลาดหุ้นไทยอาจเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค. เนื่องจากทำเลทางภูมิศาสตร์ที่แสนมีค่า. มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบการเงินที่พร้อม. ให้บริการความต้องการของภูมิภาคระยะยาวหลายอย่าง. อย่างไรก็ตาม, เป็นแหล่งระดมทุนและการลงทุนข้ามชาติ

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้

การใช้เทคโนโลยีใหม่ในตลาดหุ้นไทยช่วยโต้วาที. เช่น ใช้ระบบ Digital Trading Platform สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์. การสนับสนุนการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล. และพัฒนาระบบการเงินแบบดิสรัปทีฟ ทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นที่น่าสนใจ. และเพิ่มการเข้าถึงและการลงทุนของนักลงทุน

การมุ่งสู่ความยั่งยืน

ความยั่งยืนเป็นแนวโน้มที่สำคัญของตลาดหุ้นไทย. ตลาดหุ้นมีมาตรการกำกับดูแลกิจการที่ดี. คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม. และสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม มันช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ. และดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ลงทุนอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน

ลิงก์ที่มา

1. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1130754
2. https://www.efinancethai.com/HotTopic/HotTopicMain.aspx?id=a3BuSkZWRGVNczQ9
3. https://today.line.me/th/v2/article/aGvk07W
4. https://www.stock2morrow.com/article/5870
5. https://www.thairath.co.th/money/investment/stocks/2791096